Call: (084) 518-6464, (082) 389-3984 | Email: privatefon@gmail.com

คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่พบบ่อย

1.  ขั้นตอนการสร้างบ้านของบริษัทเป็นอย่างไร

คำตอบ: แบ่งเป็นสองกรณีคือ 1) ลูกค้ายังไม่มีแบบ และ 2) ลูกค้ามีแบบแล้ว

กรณีที่ 1 ลูกค้าคุยกับสถาปนิกเพื่อกำหนดรูปแบบ และ function ของบ้าน เพื่อทำ design proposal เมื่อได้รับอนุมัติแบบ proposal แล้ว บริษัทจะทำสัญญาออกแบบและก่อสร้างเพื่อถือเป็นการเริ่มงานอย่างเป็นทางการ เมื่อแบบแล้วเสร็จและได้รับอนุมัติ บริษัทจะนำเสนอราคาและวัสดุที่ถูกระบุตามแบบครบถ้วน พร้อมทั้งนำเสนองวดงานการก่อสร้างที่กำหนดวันที่เริ่มต้นจนแล้วเสร็จให้กับลูกค้า หลังจากการอนุมัติ บริษัทจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างตามแผนของงวดงานที่ได้นำเสนอไป

กรณีที่ 2 หากลูกค้ามีแบบแล้วบริษัทจะทำการคิดราคาค่าก่อสร้างให้จากแบบของลูกค้า หลังจากการตกลงเรื่องราคาค่าก่อสร้าง บริษัทจะจัดทำสัญญาการก่อสร้างพร้อมกับงวดงานก่อสร้าง ดังเช่นในกรณีที่ 1
 

2.  คิดราคาค่าก่อสร้างอย่างไร

คำตอบ: โดยปกติแล้วบริษัทสร้างบ้านทั่วไปจะทำการก่อสร้างโดยคำนวนราคาบ้านจากพื้นที่บ้าน(ตารางเมตร) ซึ่งราคาที่แน่นอนของการก่อสร้างจะขึ้นอยู่กับวัสดุและรายละเอียดของรูปแบบบ้านที่ลูกค้าเลือกอีกครั้ง หากลูกค้าเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ สถาปนิกจะช่วยควบคุมราคางบประมาณโครงการให้โดยออกแบบให้สอดคล้องกับราคาที่ได้รับแจ้ง  
 

3.  ทีมสถาปนิกเป็นใคร

คำตอบ:  บริษัทมีทีมงานสถาปนิก in house ซึ่งจะประกอบไปด้วยสถาปนิกโครงการที่จะมีหน้าที่รับผิดชอบและควบคุมในขั้นตอนการผลิตแบบตั้งแต่การคิดคอนเซปต์ไปจนถึงการตรวจสอบหน้างานว่าการก่อสร้างตรงตามแบบหรือไม่ รวมถึงมีผู้ช่วยสถาปนิกที่มีประสบการณ์ซึ่งจะทำหน้าที่ในการดำเนินการเขียนแบบควบคู่ไปกับสถาปนิก
 

4.  ทางบริษัทมีบริการจัดหาที่ดินให้ด้วยหรือไม่

คำตอบ: ในกรณีที่ลูกค้ายังไม่มีที่ดิน บริษัทมีบริการติดต่อและประสานงานกับสำนักงานจัดหาที่ดินให้ ซึ่งเป็นสำนักงานที่บริษัทจะใช้บริการเป็นประจำอยู่แล้วซึ่งสามารถเชื่อถือได้ โดยบริษัทจะรับหน้าที่จัดการให้จนถึงขั้นตอนการพาลูกค้าไปชมที่ดิน
 

5. ระยะเวลาในการก่อสร้างกำหนดอย่างไร

คำตอบ: กำหนดโดยวิศวกรของบริษัท โดยแบ่งเป็นงวดงานตามความเหมาะสม วิศวกรจะประเมินขนาดของอาคาร, รายละเอียดความยากง่ายทางสถาปัตยกรรม และ รูปแบบของโครงสร้างที่ใช้ หากอาคารมีขนาดใหญ่ หรือมีรายละเอียดงานตกแต่งโครงสร้างมาก จะมีผลกระทบต่อเวลาที่ใช้ในการสร้างบ้านที่นานขึ้น โดยทั่วไปบ้านชั้นเดียวจะใช้เวลาประมาณ 4-8 เดือน ในขณะที่บ้านสองชั้นจะใช้เวลาประมาณ 6-10 เดือน ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เบื้องต้น
 

6. หากต้องการกู้เงินเพื่อสร้างบ้านต้องทำอย่างไรบ้าง

คำตอบ: หากลูกค้ามีความประสงค์ที่จะขอยื่นกู้กับธนาคาร ทางบริษัทมีบริการประสานงานเรื่องสินเชื่อให้กับลูกค้าโดยใช้บริการของธนาคารหลักๆ 4 แห่ง คือ ไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ และธนาคาร UOB ซึ่งในเบื้องต้นเราจะประสานงานให้ลูกค้าทำ pre-approve กับธนาคารก่อนเพื่อดูว่าลูกค้ามีศักยภาพในการกู้เท่าไร ซึ่งวงเงินกู้ดังกล่าวจะนำมาใช้ประกอบการออกแบบเพื่อทำ proposal ในการยื่นกู้ให้ได้เพียงพอกับจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องการ โดยบริษัทจะมีบริการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือด้านเอกสารในส่วนของแบบและก่อสร้างเพื่อให้ลูกค้านำไปยื่นกู้กับธนาคาร
 

7. สร้างบ้านกับ BuildSabai แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร

คำตอบ: บริษัทขึ้นชื่อในเรื่องของการสร้างบ้านที่มีมาตรฐาน มีทีมสถาปนิกและวิศวกรที่มีความรู้และมีใบประกอบอาชีพที่ถูกต้อง ควบคุมงานก่อสร้างอย่างตรงไปตรงมา มีการบริการต่างๆที่ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา สำรวจที่ดิน เพื่ออกแบบและวางผังอาคาร บริการเดินเรื่องขอสินเชื่อ ดำเนินการขอใบอนุญาตปลูกสร้างอาคาร ขอเลขที่บ้านและติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าและโทรศัพท์ให้บ้านลูกค้า ลูกค้าที่สร้างบ้านกับเราสามารถดูความคืบหน้างานก่อสร้างบนหน้า Facebook ของบริษัทในทุกๆงวดงาน บ้านที่สร้างกับเราจะได้รับการประกันงานโครงสร้าง และมีการตรวจเช็คสภาพบ้านทุกๆ 3 เดือนหลังจากบ้านสร้างเสร็จ
 

8.ควรจะใส่ฉนวนหรือ insulation ให้บ้านหรือไม่

คำตอบ: Insulation คือ วัสดุต้านทานและป้องกันความร้อน ซึ่งอาคารที่เป็นฉนวนจะช่วยชะลอการส่งผ่านความร้อนเข้าสู่ภายในอาคาร โดยการติดตั้งฉนวนให้แก่ผนังและคาอาคารจะช่วยในการลดการใช้พลังงานและลดค่าไฟฟ้าในอาคารที่ได้รับการปกป้องจากฉนวนเพราะช่วยยับยั้งการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกอาคารและช่วยเก็บความเย็นไม่ให้รั่วไหล
 

9.ระบบ Prefab คืออะไร มีข้อดีและเสียอย่างไร

คำตอบ: Prefab หรือ Prefabrication คือชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่ทำสำเร็จมาจากโรงงาน เช่น เสา คาน และ พื้น ซึ่งพร้อมนำมาติดตั้งที่หน้างานได้เลยโดยอาศัย อุปกรณ์ยกประกอบ ซึ่งข้อดีก็คือลักษณะพื้นผิวของวัสดุสำเร็จรูปมีความเนียนเรียบ จำนวนแรงงานก่อสร้างที่ใช้น้อยลงลดปัญหาความไม่แน่นอนของแรงงานฝีมือ ขณะที่คุณภาพของโครงสร้างบ้านมีความมั่นคงแข็งแรงและสามารถก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว แต่มีข้อเสียคือราคาจะสูงกว่าการใช้ระบบแบบก่ออิฐฉาบปูน
 

10. การก่อสร้างในหน้าฝนจะมีปัญหาหรือไม่ / อย่างไร

คำตอบ: ไม่มีปัญหา แม้ในหน้าฝนการก่อสร้างก็ยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติโดยที่วิศวกรผู้คุมงานจะปรับเปลี่ยนแผนงานเพื่อความเหมาะสมและให้ทันต่อกำหนดการ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะนำงวดงานในส่วนของโครงหลังคาและมุงหลังคาให้เสร็จก่อนในช่วงต้น เพื่อทำให้สามารถดำเนินงานอื่นๆ เช่น งานก่อฉาบ งานปูกระเบื้อง และงานทาสีให้แล้วเสร็จภายใต้พื้นที่หลังคา